สมุนไพรเป็นพืชที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู จึงนิยมปลูกไว้ใช้ในครัวเรือน หากใครกำลังอยากได้สมุนไพรไปปลูกคู่สวนครัว เรามีพืชสมุนไพร 10 ชนิดมาแนะนำกัน แต่จะมีสมุนไพรชนิดใดบ้าง และในแต่ละชนิดจะมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายอย่างไร ติดตามกันได้เลย
1. กะเพราเขียว
กะเพราเขียว (Holy Basil) เป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่นิยมปลูกมากในไทย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว คนไทยนิยมนำมาใช้ปรุงเมนูยอดฮิตอย่างผัดกะเพรา นอกจากนั้น ยังสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้อีกหลายเมนู เช่น ไข่เจียวใส่ใบกะเพรา และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับสรรพคุณของกะเพราเขียวจะช่วยขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และควบคุมโรคเบาหวานได้อีกด้วย
2. โหระพาอิตาเลี่ยน
โหระพาอิตาเลี่ยน (Italian Basil) เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่นิยมนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นซอสเพสโต้สำหรับเมนูพาสต้า หรือจะนำมาตกแต่งหน้าพิซซ่าก็ได้เช่นกัน ใบโหระพาอิตาเลี่ยนนั้นจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้ายกับใบกะเพราบ้านเรา แต่จะมีความหวานมากกว่า ส่วนเรื่องของความเผ็ดร้อนจะน้อยกว่าโหระพาไทยเล็กน้อย มีสรรพคุณคล้ายกับกะเพราเขียว ซึ่งก็คือช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และช่วยต่อต้านการอักเสบในร่างกายได้
3. ผักชีลาว
ผักชีลาว (Dill) เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ นิยมนำไปประกอบเป็นเมนูอาหารไทยและเทศ มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะ ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ทั้งยังช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย
4.เปปเปอร์มินต์
เปปเปอร์มินต์ (Peppermint) เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำไปปลูก ทั้งในไทยและต่างประเทศ มีกลิ่นหอมเย็นโดดเด่น มีสรรพคุณด้านการขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดี นอกจากนี้ ยังช่วยดับกลิ่นปากได้อีกด้วย จึงเป็นที่นิยมปลูกไว้ปรุงอาหาร ทำขนม เครื่องดื่ม และใช้เพื่อรักษาอาการต่าง ๆ
5. เสจ
เสจ (Sage) เป็นสมุนไพรที่พบได้มากในแถบยุโรป จึงเป็นหนึ่งในสมุนไพรหลักที่ประเทศในยุโรปอย่างอิตาลี ฝรั่งเศส และอังกฤษ นิยมใช้ในการทำอาหาร โดยกลิ่นของใบเสจนั้นมีกลิ่นหอมแรงและชัดเจน อีกทั้งประโยชน์ของพืชสมุนไพรชนิดนี้ก็มีอยู่หลากหลาย เริ่มจากกลิ่นของใบเสจ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความวิตกกังวลได้ เมื่อนำมาผสมกับเครื่องดื่มยังมีคุณสมบัติแก้เจ็บคอ แก้หวัด อาการคัดจมูก แผลร้อนใน และยังช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย และชาตามกล้ามเนื้อได้ด้วย
6. เลมอนบาล์ม
เลมอนบาล์ม (Lemon Balm) เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม พร้อมสรรพคุณช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น เพราะด้วยความที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จึงทำให้ผ่อนคลาย นอนหลับง่าย ลดการทำงานหนักของสมองและความตึงเครียด อีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลในสมองด้วย
7. โรสแมรี
โรสแมรี (Rosemary) เป็นสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้ปรุงและตกแต่งเมนูอาหารต่าง ๆ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สบายจมูก มีสรรพคุณสำคัญในการป้องกันและต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของความเสื่อมโทรมของเซลล์ จึงช่วยชะลอริ้วรอย และป้องกันผิวเหี่ยวย่นก่อนวัยได้
8. ไทม์
ไทม์ (Thyme) เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม อยู่ในตระกูลเดียวกับเปปเปอร์มินต์และออริกาโน นิยมใช้ในการทำอาหารตะวันตก มักใช้ในการหมัก หรือผัดกับเนื้อสัตว์ให้หอม มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ลดแน่นเฟ้อ บรรเทาอาการวิงเวียน ลดไข้ และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
9. ออริกาโน
ออริกาโน (Oregano) เป็นสมุนไพรที่เป็นที่รู้จักกันดีในเมนูอาหารอิตาเลี่ยน นิยมใช้ทั้งรูปแบบใบสด และแห้ง โดยที่ออริกาโนนั้นมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร และช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้
10. ทาร์รากอน
ทาร์รากอน (Tarragon) สมุนไพรที่มีกลิ่นหอม นิยมนำมาปลูกในสวนครัวไม่แพ้สมุนไพรชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะในอาหารฝรั่งเศสที่เรียกขานทาร์รากอนว่าราชาของสมุนไพร เพราะทาร์รากอนนั้นจะมีกลิ่นหอมที่ชวนให้อยากรับประทานอาหารยิ่งขึ้น โดยสรรพคุณของทาร์รากอน จะช่วยรักษาอาการหวัด คัดจมูก รวมถึงช่วยขับลม ขับแก๊สในท้องได้
เมื่อรู้แล้วว่าพืชสมุนไพรที่นิยมปลูกมีอะไรบ้าง หากใครอยากปลูกพืชสมุนไพร โดยที่ไม่ต้องลำบากเพาะเมล็ดและปลูกเอง สามารถมาเลือกซื้อต้นสมุนไพรราคาดี ๆ จากชัยโยฟาร์มไปดูแลต่อได้เลย ซึ่งนอกจากเราจะขายต้นสมุนไพรและต้นไม้พร้อมปลูกหลากหลายชนิดแล้ว เรายังมีสินค้าให้เลือกซื้ออีกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นวัสดุปลูกอย่างพีทมอส กระถาง ปุ๋ย หากสนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ผ่านทางเว็บไซต์ หรือจะแวะมาเลือกที่หน้าร้านก็ไหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อีเมล info@chaiyofarma.co.th และเบอร์โทรศัพท์ 02 015 0909