Blog

เพอร์ไลท์และเวอร์มิคูไลท์ต่างกันอย่างไร ทำไมต้องใช้คู่กัน ?

เพอไลท์ และเวอร์มิคูไลท์ เป็น 2 วัสดุปลูกที่จะสามารถช่วยในการปรับสภาพดิน เพิ่มช่องว่างระหว่างดินและอากาศได้เป็นอย่างดี ทำให้เหมาะกับการนำไปเพาะปลูก เพื่อให้ผู้ที่สนใจอยากนำวัสดุปลูกชนิดนี้ไปใช้อย่างถูกต้อง บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเพิ่มเติมว่าเพอร์ไลท์และเวอร์มิคูไลท์คืออะไร และควรใช้ร่วมกับวัสดุปลูกอื่นๆในสัดส่วนอย่างไรบ้าง

เพอไลท์ และเวอร์มิคูไลท์คืออะไร ?

เพอร์ไลท์ และ เวอร์มิคูไลท์ เป็นวัสดุปลูกยอดนิยมที่ใช้ผสมกับดิน พีทมอส หรือผสมกับวัสดุปลูกอื่น ๆ เพื่อปรับสภาพดินให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติพิเศษดังนี้

เพอร์ไลท์

เพอร์ไลท์ (Perlite) คือแร่ภูเขาไฟที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีลักษณะเป็นแก้วภูเขาไฟที่มีน้ำอยู่ภายใน เมื่อนำมาให้ความร้อนสูงถึงประมาณ 900°C น้ำจะระเหยกลายเป็นไอ ทำให้เกิดการพองตัวและแตกออกเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีขาว มีน้ำหนักเบาและพรุน คล้ายกับโฟม ช่วยระบายน้ำและอากาศในดินได้ดี ทั้งยังช่วยรักษาความชื้นในดินได้แต่ไม่ทำให้ดินแฉะ เหมาะกับพืชที่ต้องการดินร่วนซุย

เวอร์มิคูไลท์

เวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite) คือแร่ซิลิเกตที่มีโครงสร้างเป็นชั้น ๆ เมื่อนำมาให้ความร้อนสูงถึงประมาณ 800-1000°C จะขยายตัวเป็นชั้นบาง ๆ ซ้อนกันหลายชั้น มีสีออกน้ำตาล เหลืองทอง หรือเทา และมีรูพรุนทำให้สามารถดูดซับน้ำและธาตุอาหารได้ดี และช่วยแลกเปลี่ยนธาตุอาหารให้กับพืชได้ เหมาะกับพืชที่ต้องการดินที่มีความชื้นสูง

ความเหมือนของเพอไลท์ และเวอร์มิคูไลท์

  • เป็นแร่ธรรมชาติเหมือนกัน เพอไลท์และเวอร์มิคูไลท์ ทั้งสองชนิดเป็นแร่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและผ่านกระบวนการให้ความร้อนเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติให้มีโครงสร้างรูพรุนเหมือนกัน
  • น้ำหนักเบา แร่ทั้งสองชนิดมีน้ำหนักเบา ช่วยลดน้ำหนักของดินที่ใช้ปลูกต้นไม้ได้ จึงเหมาะสำหรับการปลูกต้นไม้ในกระถาง แขวน หรือตั้งบนชั้นวาง
  • ปลอดภัยต่อพืช ทั้งเพอไลท์และเวอร์มิคูไลท์ไม่มีสารพิษหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อพืช สามารถใช้ปลูกพืชได้อย่างปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียต่อพืช

เพอไลท์ และเวอร์มิคูไลท์ต่างกันอย่างไร ?

  • โครงสร้าง เพอร์ไลท์จะมีลักษณะเป็นเม็ด ๆ มีรูพรุน ในขณะที่เวอร์มิคูไลท์มีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ซ้อนกันเป็นชั้น
  • สี อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้สามารถแยกเพอร์ไลท์กับเวอร์มิคูไลท์ได้ก็คือ เพอร์ไลท์จะมีสีขาวหรือเทาอ่อน ส่วนเวอร์มิคูไลท์จะมีสีออกน้ำตาล เหลือง หรือสีทอง
  • ความสามารถในการกักเก็บน้ำ เพอร์ไลท์เป็นวัสดุที่มีความสามารถในการอุ้มน้ำปานกลาง แต่ระบายน้ำได้ดีมาก ส่วนเวอร์มิคูไลท์จะมีความสามารถในการอุ้มน้ำสูงมากกว่า
  • การแลกเปลี่ยนธาตุอาหาร เพอร์ไลท์มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุต่ำ ไม่ค่อยดูดซับหรือปลดปล่อยธาตุอาหาร ในขณะที่เวอร์มิคูไลท์จะมีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุสูง สามารถดูดซับและปลดปล่อยธาตุอาหารได้ดี
  • ความเหมาะสมกับพืชที่ต้องการดินแบบต่าง ๆ เพอร์ไลท์เหมาะกับพืชที่ต้องการดินโปร่ง ระบายน้ำดี ในขณะที่เวอร์มิคูไลท์ เหมาะกับพืชที่ต้องการความชื้นสูงและธาตุอาหารสม่ำเสมอ

ดินผสมเพอไลท์ และเวอร์มิคูไลท์

การใช้เพอไลท์ และเวอร์มิคูไลท์ร่วมกันมีประโยชน์อย่างไร ?

ะบายน้ำและอากาศได้ดี

เพอร์ไลท์ช่วยเพิ่มการระบายน้ำและอากาศในดิน ทั้งยังช่วยป้องกันการอุ้มน้ำมากเกินไปซึ่งอาจทำให้รากพืชเน่า ในขณะที่เวอร์มิคูไลท์ช่วยรักษาความชื้นในดิน ทำให้ได้สมดุลที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช

รักษาความชื้นในดิน

เวอร์มิคูไลท์มีความสามารถในการอุ้มน้ำสูง ช่วยรักษาความชื้นในดินได้นาน ลดความถี่ในการรดน้ำ ในขณะที่เพอร์ไลท์ช่วยป้องกันไม่ให้ดินแน่นเกินไป ทำให้น้ำสามารถกระจายตัวได้ดีทั่วทั้งวัสดุปลูก

แลกเปลี่ยนธาตุอาหาร

เวอร์มิคูไลท์มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุสูง จึงช่วยในการดูดซับและปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้า ๆ ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างสม่ำเสมอ และแม้ว่าส่วนเพอร์ไลท์จะไม่มีคุณสมบัตินี้ แต่ก็ช่วยให้ธาตุอาหารกระจายตัวได้ดีในวัสดุปลูก

รากพืชเจริญเติบโตได้ดี

การผสมเพอร์ไลท์และเวอร์มิคูไลท์จะช่วยสร้างโครงสร้างดินที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของรากพืช ทำให้รากสามารถแทรกตัวได้ดี มีออกซิเจนเพียงพอ และสามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สัดส่วนการผสมเพอร์ไลท์ และเวอร์มิคูไลท์

หากต้องการดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี

ผสมเพอร์ไลท์ 2 ส่วน : เวอร์มิคูไลท์ 1 ส่วน สัดส่วนนี้เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการโครงสร้างดินโปร่ง ระบายน้ำดี หรือพืชที่ไวต่อการเน่าเสียของราก เช่น พืชอวบน้ำ กระบองเพชร

หากต้องการดินที่มีความชื้นสูง

ผสมเพอร์ไลท์ 1 ส่วน : เวอร์มิคูไลท์ 2 ส่วน สัดส่วนนี้เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการความชื้นสูงและธาตุอาหารสม่ำเสมอ เช่น พืชใบ พืชตระกูลเฟิร์น หรือพืชเขตร้อนชื้น

หากต้องการดินอเนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลาย

ผสมเพอร์ไลท์ 1 ส่วน : เวอร์มิคูไลท์ 1 ส่วน สัดส่วนนี้เป็นสัดส่วนทั่วไปที่สามารถใช้ได้กับพืชหลากหลายชนิด เหมาะสำหรับการทำวัสดุปลูกอเนกประสงค์ที่สามารถปรับใช้ได้กับพืชส่วนใหญ่

การใช้เพอไลท์ และเวอร์มิคูไลท์ร่วมกันอย่างเหมาะสมจะช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาพืชของคุณได้มากขึ้น หากกำลังมองหาแหล่งขายวัสดุปลูกเพอร์ไลท์ และเวอร์มิคูไลท์คุณภาพดี สามารถเข้ามาดูสินค้าและสั่งซื้อได้เว็บไซต์ชัยโยฟาร์ม หรือจะแวะมาเลือกซื้อที่หน้าร้านก็ได้เช่นกัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล info@chaiyofarm.co.th และเบอร์โทรศัพท์ 02 015 0909

หมวดหมู่